meweb



barbiebunnybird 
   

 Really my former and all of my great king love to make our people get full conviniene in infrastruction and logistic for nice vision...many of civil line follow all initiate like this...until now..we still get nice policy from our king creativity...our monarchy still keep on honor ...not touch about all projects or development policy or all government administration anymore..our monarch stlte is for royalty.all organs of civil government can mobilise by themselves by under people real need..all representative and parties govern and take balances together for maintain democrasy constitution and parliaments on liberty under constitution law too...we still need our monarch be our idealism of memorandum that still leep on our mind of thailanders...we will keep on high harmonized for keep on our legend of great monarch from many trounsand years of siam until thailand time ...now..

 

royalty to all of our monarch...we do everything for better life of people by aspirationlaw not only by duty but we sacrific forward by hoping that our monarch be ideal and lower activities for enforce all policies by themselves..people of all civil and private will shoot our country into ultimate goal by empowerful our people inside community development technical and all integration of all network of this world for eradicate poverty and DELETE rural development from this dictionary global...but everyone must move on same harmony way...yes or no???

sugar and my love with my mother birthday...no mom no me...

my mom born on king chula the great day about 78 years ago..

happy birth day to ms.supreedee polsrila..my mom..



Dogs on my way... Sugarcane At Bkk | Create your badge
Sugarcane At Bkk | Create your badge
http://apps.facebook.com/barnbuddy/?r=100001044639025&src=reflink  
 
     

http://www.amulet.in.th/forums/view_topic.php?t=1398

MY MOM BORN IN KING CHULA BIRTHDAY ...YEAR RAT ABOUT 75 YEARS AGO..

23 OCTOBER

NOW COMING

http://shopping.sanook.com/buy/buy_detail.php?nitemID=2180604

CLICK HERE FOR RUSSIA PAGE

เคล็ดลับเรื่องการบูชาสมเด็จพระปิยมหาราช

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระปิยมหาราช

ข้าพเจ้า มีความเชื่อถือและศรัทธาต่อพระบารมีของเสด็จพ่อ ร.5 มากว่า 10 ปี ตั้งแต่เด็กจำความได้ มักจะเห็น คุณพ่อคุณแม่กราบไหว้เสด็จพ่อ ร.5 ซึ่งคุณแม่จะมีหน้าที่ไหว้สักการะเสด็จพ่อ ร.5 เป็นประจำด้วยดอกกุหลาบสีชมพูและขอความสุขความเจริญสู่ครอบครัวตลอดจน ตำแหน่งหน้าที่การงานก้าวไกล

ควรบูชาทุกวัน
หากไม่บูชาทุกวันเพราะมีกิจจำเป็นก็ ให้บูชาทุกวันอังคาร (ซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระองค์เจ้า) และวันพฤหัสบดี (ซึ่งเป็นวันครู) และควรบูชาในทุกวันพระเป็นประจำทุกวันพระก็ได้ แต่มีข้อแม้ว่าถ้าบูชาแล้วต้องถวายติดต่อกันไป ไม่ใช่ทำๆ หยุดๆ และในวันพระให้ยกเว้นการบูชาสิ่งที่เป็นอบายมุข เช่น บุหรี่ เหล้า

สิ่งที่ท่านโปรด
คือน้ำมะพร้าวอ่อน กล้วยน้ำว้า ทองหยิบ ทองหยอด บรั่นดี ซิการ์ ข้าวคลุกกะปิ และดอกกุหลาบหรือดอกไม้สีชมพู อันเป็นสีวันพระราชสมภพ
-จุดธูปบูชาครั้งแรกให้จุดธูป 16 ดอก แล้วครั้งต่อไป จุดธูป 9 ดอก
-ว่าคาถาบูชา (ตั้งจิตอธิษฐานขอสิ่งที่ต้องการจากท่าน อย่าบนบานสานกล่าว)

การบูชา
ให้จุดธูปอัญเชิญดวงพระวิญญาณมารับเครื่อง สักการบูชา ทำอย่างจริงใจและนอบน้อม จะได้ทำมาค้าคล่องและมีความสุขความเจริญทั่วไป สุขทั้งกับครอบครัว ตำแหน่งหน้าที่การงานก้าวไกล

สำหรับคนธรรมดาทั่วไป
ตั้งพระบรมฉายาลักษณ์ไว้ในที่ สูง จากนั้นหาหิ้งหรือโต๊ะขนาดพอสมควรกับฐานะ ตั้งแจกันดอกไม้ ในตอนเช้าก็ถวายพระสุธารส (ชาหรือกาแฟหรือน้ำหวาน กับผลไม้ หรือขนมตามสมควรแก้ฐานะ หรือจะเป็นอาหารชุดเล็กเหมือนถวายข้าวพระพุทธก็ได้)

สำหรับคนมีฐานะ (เศรษฐีหรือข้าราชการชั้นผู้ใหญ่)
จัด หามุมหนึ่งของบ้าน ในห้องพระ หรือชั้นบนบ้านในมุมบ้านมุมใดมุมหนึ่ง ตั้งพระบรมฉายาลักษณ์ในที่สูง ๆ ด้านล่างมีโต๊ะแบบหลุยส์และเก้าอี้แบบหลุยส์หรือแบบอื่นที่งดงามตามกำลังมา วางไว้ใต้พระบรมฉายาลักษณ์ แก้วแบบใช้ดื่มไวน์หรือแก้วมีก้าน ถวายผลไม้อย่างดีและเครื่องคาวหวานในถาดเครื่องถ้วยชามที่งดงาม รินน้ำใส่ในแก้วก้าน รินเหล้าองุ่นอย่างดีจะเป็นเหล้าองุ่นหรือเหล้าแบบคอนยัคก็ตามแต่ลงไปในแก้ว ก้าน ชงกาแฟ ขนมปังใส่ในถ้วยกาแฟที่มีจานรองถวาย พร้อมกับเครื่องคาวหวาน และแจกันดอกไม้พ้นเที่ยงแล้วยกอาหารคาวหวานและกาแฟออก ทิ้งผลไม้และน้ำตลอดจนเหล้าไว้ที่เดิมจนพระอาทิตย์ตกดินจึงเก็บ เหล้าให้เทออกใส่ขวดเก็บไว้เอาไว้กิน เพื่อรักษาโรคภัยไข้เจ็บหรือแก้อาการเจ็บป่วยได้อีกด้วย

K7
chuthatip

K1

วันที่เข้าร่วม: 15 Aug 2007
ตอบ: 3146
K2ตอบเมื่อ: 29 Dec 2008 06:20 pm
K3K6
K5
K4

http://www.oknation.net/blog/littlewizard/2007/10/23/entry-1

วันอังคาร ที่ 23 ตุลาคม 2550
ปิยมหาราช รำลึก
Posted by littlewizard , ผู้อ่าน : 1965 , 14:48:06 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน

ok999 พิมพ์หน้านี้


ok1

.........................................................

ปิยมหาราช รำลึก

..........................................................

.

ok9

.

วัน อาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม 2453 เป็นวันที่พระมหาราชอันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย ทั้งในอดีต และปัจจุบัน เสด็จสวรรคต พวกเราจะไม่มีวันนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะพระองค์ท่านทรงประทานไว้
ผมจึงใคร่ขอเชิญชวนพวกเราทุกคนร่วมกันระลึกถึงพระองค์ท่านด้วยกัน

.

ok5

.
พระราชกรณียกิจโดยสังเขป

.
ทรง จัดระเบียบการปกครองของประเทศให้ทันสมัย มีการตั้งกระทรวงทบวงกรมต่างๆ เช่นกระทรวงยุติธรรม ตั้งกรมรถไฟ กิจการรถราง กิจการประปา ตั้งโรงไฟฟ้า กรมไปรษณีย์โทรเลข กรมธนบัตร ตั้งศาลโปริสภา(ศาลแขวง) ตราข้อบังคับลักษณะการปกครองหัวเมือง เป็นต้น จนอาจกล่าวได้ว่าพระองค์ท่านทรงเป็นผู้วางรากฐานการปกครองของไทยสมัยใหม่โดย แท้

.

ok8

.

ok99

.
ทรง เป็นผู้ปรีชาทางการทหารและการเมือง ทรงนำประเทศสยามให้พ้นจากการตกเป็นอาณานิคมของจักรวรรดิอังกฤษ และฝรั่งเศส ทั้งๆที่ประเทศอื่นๆในสุวรรณภูมิต่างตกเป็นเมืองขึ้นของประเทศมหาอำนาจไปจน หมดสิ้นแล้ว ทรงจัดทัพปราบฮ่อ (จีนไท่ผิง) ปราบเงี้ยว (แพร่) ปราบผีบุญ (อุบล) กบฏแขก ( 7 หัวเมืองปัตตานี ) โดยมีการนำกลวิธีแนวทางการรบแบบยุโรปมาใช้

.

ok2

.
ทรง วางรากฐานการศึกษาสมัยใหม่อย่างเป็นระบบ อาทิเช่น ทรงก่อตั้ง โรงเรียนสวนกุหลาบ (โรงเรียนหลวงแห่งแรก ) โรงเรียนเทพศิรินทร์ โรงเรียนวัดมหรรณพาราม(โรงเรียนราษฎร์แห่งแรก) มหามกุฎราชวิทยาลัย จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย โรงเรียนนายร้อยทหารบก โรงเรียนนายร้อยตำรวจที่นครราชสีมา โรงเรียนนายเรือ กรมพยาบาล โรงพยาบาลศิริราช ฯ

.

ok6

.

ok3

.

ok7

.
ทรง ใฝ่ใจในการทำนุบำรุงศาสนาพุทธ ทรงก่อสร้าง บูรณะวัดวาอาราม พระพุทธรูปมากมาย รวมทั้งพระพุทธชินราชจำลอง ที่วัดเบญจมบพิตร แม้จะทรงเป็นพุทธมามกะแต่ก็ทรงให้โอกาสประชาชนนับถือศาสนาโดยอิสระ

.

ok00

.
ทรง เลิกทาส ทรงประกาศให้ลูกทาสเป็นไททั้งหมด ด้วยพระราชบัญญัติลักษณะทาส รัตนโกสินทร์ศก ๑๓๐ ซึ่งตรงกับวันที่ ๑๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๕๔ นับแต่นั้นทาสทั้งหมดก็สิ้นจากราชอาณาจักรไทย

.

ok4

.
พระเมตตา พระมหากรุณาธิคุณ พระปรีชาชาญ พระราชกรณียกิจ ของพระองค์ท่านยังมีอีกมากมาย สุดที่จะพรรณนาได้ครบถ้วนหมดสิ้น

.
กล่าว โดยสรุปได้ว่า ในรัชสมัยของพระองค์ ประชาชนชาวสยามสามารถอยู่อย่างสงบสุข อิสระ เป็นไทแก่ตนเอง สิ่งต่างๆที่พระองค์ท่าน ทรงพระราชทาน ดำริ ก่อสร้าง วางรากฐานไว้ เป็นผลทำให้ประเทศไทยและประชาชนไทย อยู่ร่มเย็นเป็นสุขมีความเจริญรุ่งเรืองจวบจนปัจจุบัน

.
พระองค์ทรงเป็นที่เคารพรักยิ่งของปวงชนชาวไทย ทั้งในอดีต และปัจจุบัน พระองค์จึงได้รับการถวายพระราชสมัญญานามว่า สมเด็จพระปิยมหาราช

.

littlewizard Oct 23, 2007

 

http://www.cm77.org/board/frame.php?frameon=yes&referer=http%3A//www.cm77.org/board/viewthread.php%3Ftid%3D1639

วันสวรรคตของสมเด็จพระปิยมหาราช จาก ความทรงจำของหม่อมศรีพรหมา กฤดากร (ณ น่าน)

วันสวรรคตของสมเด็จพระปิยมหาราช จาก ความทรงจำของหม่อมศรีพรหมา กฤดากร (ณ น่าน)
--------------
รชตฯ หิรัญญ์ เรียบเรียงจาก "อัตชีวประวัติ ของ หม่อมศรีพรหมา กฤดากร" -- 1 ใน 100 หนังสือดีที่คนไทยควรอ่าน


kc2

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕


เจ้าศรีพรหมา เป็นนางพระกำนัล รับใช้ใกล้ชิดสมเด็จพระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี มีหน้าที่ตามเสด็จ ตั้งเครื่องเสวยตามเวรและเวลา
วันที่ 22 ตุลาคม 2453 ในตอนกลางวันเป็นเวรของ เจ้าจอมถนอม ร.5 ทรงประชวรมาก พำนักที่สวนอัมพร ซึ่งถือเป็นฝ่ายหน้า และสมเด็จเสด็จไปเข้าเฝ้าแล้วไม่ได้เสด็จกลับ บรรยากาศตอนนั้นเงียบเหงา โดยที่ปกติเวลาใกล้เที่ยงนั้นผู้คนจะเดินขวักไขว่ จอแจ

ส่วนสำหรับ ตัวของเจ้าศรีพรหมานั้น ในช่วงกลางวันจะงีบเพื่อเข้าเวรตอนกลางคืน และมาสะดุ้งตื่นเอาตอนพลบค่ำ ด้วยหนูมากัดที่หัวแม่เท้า และหนูหลายสิบตัววิ่งอยู่บนเพดาน พร้อมกับส่งเสียง กุก ๆๆ ด้วยการที่หนูร้องเสียงนี้ โบราณถือว่าจะมีเหตุไม่ดีเกิดขึ้น กอปรกับช่วงนั้น มองเห็นดาวหางอยู่ในระดับชั้นสามของพระที่นั่งอัมพรอันเป็นห้องพระบรรทม และพาดหางไปยังพระที่นั่งอนันตสมาคม ดาวหางนั้นก็คือ ดาวหางฮัลเลย์ นั่นเอง

เจ้าศรีพรหมา จึงจะไปเปลี่ยนเวรกับเจ้าจอมถนอม เดินข้ามคลองจากตำหนักสวนสี่ฤดู ไปยังพระที่นั่งอัมพร มีผู้คนต่าง ๆ ที่อยู่บนพระที่นั่งล้วนดูหม่นหมอง และนั่งเรียงรายกันตามขั้นบันได เมื่อไปถึงชั้นสามนั้น บรรยากาศเงียบกริบ สมเด็จบรรทมกับพื้นอยู่สุดห้องพระบรรทม

ส่วน ร.5 ก็บรรทม กรนสม่ำเสมอ ดูอวบอ้วน พระพักตร์อิ่ม ทรงพระภูษาแดงผืนเดียวอยู่บนพระแท่น ส่วนเจ้าศรีพรหมาก็เข้าไปนอนที่ปลายพระบาทสมเด็จฯ

มาตกใจตื่น เมื่อได้ยินเสียงร้องเซ็งแซ่ ด้วยเสียงร้องไห้ ผู้คนมากมายหมอบราบซบกับพื้น ส่วนสมเด็จฯ อยู่กับ ร.5 ซึ่งได้สวรรคตแล้ว พร้อมกับหมอไรเตอร์ หมอประจำพระองค์ กำลังถวายยาฉีดสมเด็จฯ ที่หมดสติ แล้วพนักงานก็ อัญเชิญสมเด็จลงบนพระเก้าอี้เพื่อนำกลับพระตำหนัก ส่วนเจ้าศรีพรหมาซึ่งเป็นนางกำนัลก็ต้องขนของ **บหมากเสวย และบ้วนพระโอษฐ์ (กระโถน) ตามเสด็จกลับตำหนัก

ส่วนในห้องพระบรรทมนั้น ข้างพระแท่นเบื้องขวานั้น ก็มีเจ้าจอมมารดาชุ่ม กับพระเจ้าลูกเธอสองพระองค์ และเจ้าจอมเอิบ (หนึ่งในเจ้าจอมก๊ก อ. ) คนโปรด และมีพระอรรคชายาเธอ ซบกับเจ้าฟ้ามาลินีนพดาราและเจ้าฟ้านิภานภดล

ส่วน เจ้าศรีพรหมาก็ตามสมเด็จมายังตำหนักสวนสี่ฤดู ซึ่งยังไม่คืนพระสติตลอดวันที่ 23 เลยทีเดียว หลังจากนั้นพอฟื้นคืนพระสติขึ้นมา ก็ทรงกันแสงจนหมดพระสติไปอีกหลายครั้งหลายคราว...

kc3

หนังสือต้นฉบับ

kc1

พระที่นั่งอัมพรสถาน สถานที่สวรรคตของพระปิยมหาราช

[ แก้ไขล่าสุด รชตฯ เมื่อ 2008-10-23 12:47 ]

 

 

 

 

 

 

http://www.oknation.net/blog/print.php?id=235664

 
 

 

me

wink

 

wink

eco borad